ศูนย์กลางเศรษฐกิจของชุมชนบ้านชมภู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
เสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชน
และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักท่องเที่ยวกับคนในพื้นที่
บ้านชมภูเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี เดิมเป็นพื้นที่ที่ราษฎรอพยพมาจากนครเวียงจันทน์ ตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่อุดมสมบูรณ์ที่มีแหล่งน้ำใช้ตลอดปี
ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น การปลูกข้าว พืชผักผลไม้ และเลี้ยงสัตว์ โดยยังคงรักษาวิธีการทำเกษตรแบบดั้งเดิมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ งานหัตถกรรม เช่น การจักสานจากไม้ไผ่และการทอผ้า ก็เป็นอาชีพเสริมที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของท้องถิ่น
ตลาด “ใต้เงาไผ่ ชมภูวิถี” มีลักษณะเป็นตลาดชุมชนที่เน้นการค้าปลีกโดยคนในชุมชนเอง รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยมีจุดเด่น ดังนี้
เป็นตลาดที่เน้นสินค้าท้องถิ่น เช่น ผลผลิตทางการเกษตร อาหารพื้นเมือง งานฝีมือ
สร้างประสบการณ์ที่แตกต่างจากตลาดทั่วไป ด้วยการจัดกิจกรรมที่เชื่อมโยงนักท่องเที่ยวกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน
ส่งเสริมอัตลักษณ์ของชุมชน เช่น การแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการเล่าเรื่องราวของชุมชนผ่านสินค้าและบรรยากาศตลาด flexible
เครื่องมือในการประเมินจุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) โอกาส
(Opportunities)
และอุปสรรค/ภัยคุกคาม (Threats) ขององค์กร เพื่อใช้วางแผนกลยุทธ์ให้เหมาะสม
จุดแข็งและจุดอ่อนมักมาจากปัจจัยภายในองค์กร ส่วนโอกาสและภัยคุกคามมาจากปัจจัยภายนอก
การวิเคราะห์นี้ช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจสถานการณ์รอบด้านและตัดสินใจอย่างมีข้อมูล
ใช้ได้ทั้งในระดับองค์กร โครงการ หรือแม้แต่ตัวบุคคล
และเป็นพื้นฐานในการกำหนดทิศทางการพัฒนาในอนาคต
• ชุมชนมีสินค้าท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น งานจักสาน ผ้าทอพื้นเมือง อาหารพื้นบ้าน
• มีบรรยากาศที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงอนุรักษ์
• มีทรัพยากรมนุษย์ที่พร้อม ทั้งชาวบ้านที่มีทักษะด้านงานหัตถกรรมและการเกษตร
• การเข้าถึงตลาดอาจไม่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบท
• ชาวบ้านยังขาดประสบการณ์ในการบริหารและจัดการตลาด
• มีข้อจำกัดด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์สินค้า
• แนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงอนุรักษ์กำลังได้รับความนิยม
• ผู้บริโภคเริ่มให้ความสนใจสินค้าท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมากขึ้น
• มีโอกาสในการขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์
• การแข่งขันกับตลาดชุมชนอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน
• การเดินทางที่ไม่สะดวก อาจทำให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้ยาก
• ตลาดอาจไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก
ต้องอาศัยความร่วมมือจากคนในชุมชนในการพัฒนาสินค้าและบริการ รวมถึงการบริหารจัดการตลาด
เน้นสินค้าท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ การเล่าเรื่องราวของชุมชนผ่านสินค้า
ใช้โซเชียลมีเดีย (Facebook, TikTok) ในการโปรโมตตลาด
ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ และสร้างมาตรฐานให้กับสินค้าชุมชน
วางระบบบริหารตลาดให้เป็นระเบียบ มีการบริหารงบประมาณที่โปร่งใส
พัฒนาด้านการเข้าถึงและการบริหารจัดการ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
o เพจตลาดชุมชนเพื่อให้ข้อมูลข่าวสาร
o ใช้ Facebook Ads โปรโมตตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมาย
o โพสต์เนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับสินค้าชุมชนและวิถีชีวิต
o สร้างวิดีโอโปรโมตตลาด เช่น การแนะนำสินค้าพื้นบ้าน
o ใช้แฮชแท็กและเข้าร่วมเทรนด์ที่กำลังมาแรง
o จัดกิจกรรมออนไลน์ เช่น แข่งขันสร้างวิดีโอเกี่ยวกับตลาด
แผนการเงิน
o มีเงินทุนเริ่มต้น 50,000 บาท โดยเป็นเงินกู้จากธนาคารออมสิน
o ค่าใช้จ่ายหลัก เช่น ค่าก่อสร้างซุ้มไม้ไผ่ ค่าออกแบบตลาด และค่าอุปกรณ์ต่างๆ
แผนการเงิน
o ต้องการเงินทุนเพิ่มสำหรับการขยายตลาด และพัฒนาระบบบริหารจัดการ
o วางแผนหารายได้จากค่าเช่าพื้นที่ของพ่อค้าแม่ค้า และกิจกรรมภายในตลาด
